อินทผาลัม

อินทผาลัม (Date Palm)

ปลูกอะไรดี,การเกษตร,กรมส่งเสริมการเกษตร,ธนาคาร ธกส,ธกส,กระทรวงเกษตรและสหกรณ์,เกษตร,พืชเศรษฐกิจ,เมล่อน,ถั่งเช่า,ถังเช่า,หมามุ่ยอินเดีย,โกโก้,อินทผาลัม,ถั่วดาวอินคา,ดีปลี,พริก,หญ้าหวาน,มะเขือเทศ,มะละกอ,กล้วย,กล้วยปากช่อง50,มะละกอเรดเลดี้,พริกขาวปทุม,ทำไร่,
 
อินทผาลัม หรือ อินทผลัม เป็นพืชตระกูลปาล์ม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "Phoenix Dactylifera Linn." และมักถูกเรียกชื่อในภาษาอังกฤษว่า "Date Palm" หรือ "Date Fruit" ผลไม้ชนิดนี้ เป็นที่นิยมอย่างมากในโลกอาหรับ และกลุ่มผู้ที่นิยมดูแลสุขภาพ ทั้งนี้เพราะ อินทผาลัม (Date Palm) มีคุณประโยชน์มากมายมหาศาล ดังจะเห็นได้จากผลการวิจัยที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในวราสารทางการแพทย์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ อินทผาลัม ยังมีอีกหลายคุณประโยชน์ที่อยู่ระหว่างการศึกษาวิจัย ซึ่งคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อผลการวิจัยถูกเผยแพร่ อินทผาลัมจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ที่มาแรงที่สุดในยุคนี้
 

การปลูกอินทผาลัม

อินทผาลัม หรือ Date Fruit สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้หลายวิธี แต่ที่ได้รับความนิยมคือ การเพาะเมล็ด และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ 

โดยวิธีการเพาะอินทผาลัมด้วยเมล็ด มีวิธีการที่ง่ายไม่ยุ่งยาก แม้ว่าต้นที่ได้จะมีเปอร์เซนต์ของ ต้นตัวผู้:ต้นตัวเมีย (40:60) แต่ที่สำคัญคือประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ หลายเท่าตัว โดยวิธีการเพาะเมล็ดอินทผาลัมนั้น สามารถสรุปเป็นขั้นตอนได้ดังนี้

1. คัดเลือกเมล็ดอินทผาลัมที่สมบูรณ์ โดยพิจารณาจากขนาดและรูปร่างเป็นสำคัญ
2. นำเมล็ดที่คัดเลือกไว้แช่ลงในน้ำประมาณ 24-36 ชั่วโมง
3. นำเมล็ดลงแช่ในน้ำที่ผสมสารกันเชื้อรา 30 นาที
4. นำเมล็ดโรยลงบนหน้าดินที่เตรียมไว้ จากนั้นนำดินบางส่วนโรยทับลงไป ให้ปิดกลบทับพอดี (สูงจากเมล็ด 1-2 cm) 
5. ประมาณ 10-15 วัน เมล็ดจะงอกราก 
ุ6. แยกเมล็ดที่งอกราก ลงปลูกในถุงเพาะที่เตรียมไว้
7. ประมาณ 6-8 เดือน ตันอินทผาลัมจะสูงประมาณ 30-50 cm
 

ปลูกอะไรดี,การเกษตร,กรมส่งเสริมการเกษตร,ธนาคาร ธกส,ธกส,กระทรวงเกษตรและสหกรณ์,เกษตร,พืชเศรษฐกิจ,เมล่อน,ถั่งเช่า,ถังเช่า,หมามุ่ยอินเดีย,โกโก้,อินทผาลัม,ถั่วดาวอินคา,ดีปลี,พริก,หญ้าหวาน,มะเขือเทศ,มะละกอ,กล้วย,กล้วยปากช่อง50,มะละกอเรดเลดี้,พริกขาวปทุม,ทำไร่,

อินทผาลัม (Date palm) ผลไม้สีน้ำตาลแก่ทรงรี จัดอยู่ในกลุ่มพืชตระกูลปาล์มมีต้นกำเนิดในกลุ่มประเทศแถมทะเลทราย เติบโตได้ดีในที่ร้อนแห้งแล้ง มีรสชาติหวานฉ่ำ และให้สรรพคุณหลายอย่างครอบคลุมตั้งแต่ระบบช่องท้องลำไส้และกระเพาะอาหาร ตลอดจนถึงหลอดเลือดสมอง เป็นต้น โดยสรรพคุณในด้านการบำรุงดูแลช่องท้อง อินทผาลัมมีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งในช่องท้อง มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค พยาธิและสารพิษตกค้างในลำไส้ รวมถึงส่งผลดีต่อความแข็งแรงของกระเพาะอาหารและป้องกันเยื่อบุกระเพาะอาหารเป็นแผลด้วย
 

อินทผาลัมกับการลดเบาหวาน

นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติในการให้รสหวานแต่ไม่มีผลต่อผู้เป็นเบาหวาน ดังนั้นอินทผาลัมจึงเป็นผลไม้แนะนำที่ช่วยแก้ปัญหาวิงเวียนศีรษะที่อาจมาจากการขาดน้ำตาลในเลือด และยังช่วยบำรุงตับอ่อนที่มีหน้าที่ผลิตอินซูลิน ดังนั้นอินทผาลัมจึงมีส่วนช่วยรักษาโรคเบาหวานได้ควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยงานศึกษาในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ชี้ว่า การรับประทานอินทผาลัมไม่ได้ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น

 

สรรพคุณมากมายและวิตามินที่หลากหลายในอินทผาลัม

ยิ่งกว่านั้นสรรพคุณเสริมอื่นๆของอินทผาลัมคือ อินทผาลัมจัดเป็นผลไม้ทางเลือกอีกประเภทหนึ่งที่ช่วยเพิ่มบำรุงร่างกาย เพิ่มพลัง ลดความเมื่อยล้า รวมถึงการช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง การช่วยบำรุงหญิงตั้งครรภ์ในด้านกล้ามเนื้อมดลูกทำให้คลอดบุตรง่าย และยังช่วยสร้างน้ำนมให้แม่หลังคลอด นอกจากนี้อินทผาลัมยังมีคุณสมบัติด้านการลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้มากถึง 40% อีกด้วย ลดเสมหะในลำคอ บำรุงสายตาและภาวะตาบอดแสง ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้มาจากวิตามินต่างๆที่มีอยู่ในอินทผาลัม อาทิเช่น วิตามินเอ วิตามิน B1, B2, B6, K แคลเซียม โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส เป็นต้น
 
ปลูกอะไรดี,การเกษตร,กรมส่งเสริมการเกษตร,ธนาคาร ธกส,ธกส,กระทรวงเกษตรและสหกรณ์,เกษตร,พืชเศรษฐกิจ,เมล่อน,ถั่งเช่า,ถังเช่า,หมามุ่ยอินเดีย,โกโก้,อินทผาลัม,ถั่วดาวอินคา,ดีปลี,พริก,หญ้าหวาน,มะเขือเทศ,มะละกอ,กล้วย,กล้วยปากช่อง50,มะละกอเรดเลดี้,พริกขาวปทุม,ทำไร่,
ในด้านการขับถ่ายพบว่าอินทผาลัมเป็นผลไม้ที่มีกากใยสูง ทำให้มีส่วนช่วยในระบบขับถ่ายได้ดี ไฟเบอร์ที่สูงทำให้สามารถรู้สึกอิ่มได้ง่ายขึ้น รวมถึงการช่วยเหลือการทำงานของแบคทีเรียในการย่อยอาหารภายในลำไส้ ดังนั้นเมื่อการขับถ่ายดีขึ้นผิวพรรณจะสดใส และอาจนำไปสู่การลดน้ำหนักได้หากบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ และข้อสำคัญที่สุดในการบริโภคคือ การบริโภคอินทผาลัมไม่ควรรับประทานแบบเชื่อม หรือแบบที่มีส่วนผสมของน้ำตาล เพราะจะทำให้น้ำหนักขึ้นง่าย แต่ควรปริโภคแบบอบแห้งหรือแบบไม่หวานจะดีที่สุดกับร่างกาย

ตัวอย่างโครงการของสถาบันส่งเสริมและพัฒนาเกษตรอินทรีย์เพื่อการส่งออก (สพอ.)
  




สนใจเข้าร่วมโครงการกับสถาบันสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรด้านหน้าเวปไซต์

หรือ

ดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่เมนูคำสั่ง หนังสือแจ้งความจำนงเข้าร่วมโครงการ ได้ที่ด้านหน้าเวปไซต์



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น